มารู้จักกับ ท็อดด์ แคนท์เวลล์ นักเตะที่ ลิเวอร์พูลจะปิดดีล

แคนท์เวลล์ ลืมตามองโลกที่บริเวณนอร์โฟล์กช่วงวันที่ 27 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1998 โดยที่อีกทั้งป๋าแล้วก็ม่าม้าของเขาต่างก็หลงใหลกีฬาบอลมากมายๆแถมทั้งสองยังเป็นสาวก อาร์เซน่อล ด้วย ซึ่งมันก็ทำให้ แคนท์เวลล์ ชอบใจกีฬาบอลตามไปด้วย และก็ตอนเข้าชั้นเรียนที่สถานที่เรียน นอร์ธเกต ไฮจ์สคูล เขาก็เริ่มฉายแววเด่นของการเป็นนักเตะ

แคนท์เวลล์ ได้แชมป์ทุกรายการเท่าที่จะคว้ามาครอบครองได้อีกทั้งในรุ่นอายุไม่เกิน 8 ปี กับรุ่นอายุไม่เกิน 9 ปี เขาบรรลุเป้าหมายอย่างยิ่งจนได้สัมผัสถ้วยรางวัลอีกทั้งแบบกลุ่มและก็แบบส่วนตัวเยอะไปหมด ก่อนที่จะจากนั้นเขาจะหมดโอกาสได้แชมป์เพิ่ม เพราะเหตุว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงกฎว่านักเตะแต่ละคนจะมีสิทธิ์ได้รางวัลส่วนตัวเพียงแค่คนละ 1 รางวัลแค่นั้น

เริ่มต้นเส้นทางสู่การเป็นนักเตะอาชีพ

ในวัย 10 ขวบ แคนท์เวลล์ มาฝึกฝนฝีเท้ากับอะคาเดมี่ของ นอริช ซึ่งถึงแม้ว่าความเจริญของเขา  DooDiDo จะมิได้เร็วทันใจเสมือนที่หลายๆคนเคยคิดกัน แม้กระนั้นเขาก็ยังเดินหน้าได้ด้วยดีจนกระทั่งถูกเรียกติดกลุ่มชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี เมื่อปี 2014 พอเพียงถึงปี 2017 แคนท์เวลล์ ก็มีชื่อเป็นตัวสำรองให้กลุ่มชุดใหญ่ของ นอริช 2 เกม แต่ว่าเขาก็ยังไม่เคยได้ลงเล่นจริงๆสักครั้ง อย่างไรก็แล้วแต่ ท้ายที่สุดเขาก็ได้รับช่องทางเปิดฉากสนามกับกลุ่มชุดใหญ่ โดยเป็นเกม เอฟเอ คัพ รอบ 3 นัดหมายแข่งขันใหม่ เมื่อปี 2018 ซึ่งคู่แข่งขันในวันนั้นของเขาเป็น เชลซี รวมทั้งในที่สุด นอริช ก็จำต้องไม่เข้ารอบ แม้กระนั้นกว่าที่ เชลซี จะชนะพวกเขาได้ มันก็จำเป็นต้องลุ้นไปถึงตอนดวลจุดลูกโทษ ภายหลังที่ใน 120 นาทีสกอร์เท่ากัน 1-1

เริ่มการผจญภัยในโลกนักฟุตบอลอาชีพ

ภายหลังจากได้เปิดฉากสนามกับกลุ่มเป็นครั้งแรก แคนท์เวลล์ ก็จำต้องไปพบประสบการณ์ด้วยการเล่นกับ ฟอร์ทูน่า สิททาร์ด สมาพันธ์ในลีกระดับ 2 ของฮอลแลนด์ ในตอนช่วงหลังของฤดู 2017-18 ด้วยคำสัญญายืมตัว แม้กระนั้นเขาก็ทำผลงานได้สะดุดตา ด้วยแนวทางการทำไป 2 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 10 นัดหมาย และก็มีส่วนทำให้กลุ่มได้ขึ้นสู่ลีกสูงสุดตอนสุดท้ายฤดูกาล ฟอร์มอันเด่นของ แคนท์เวลล์ ทำให้ นอริช ตกลงใจใช้งานเขาขณะที่ดาวเตะผู้ดีอังกฤษหมดสัญญายืมตัว

ซึ่งเขาก็ได้ลงเล่นไปถึง 27 นัดหมายจากทุกรายการ ในช่วงฤดูกาล 2018-19 ทำให้ฤดูกาลนี้ได้ขึ้นมาเล่น พรีเมียร์ลีก ร่วมกับ นอริช แล้วก็เจ้าตัวก็เล่นเจริญจนกระทั่งขั้นทำไป 6 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 27 นัดหมายในทุกรายการ ดังนี้ แคนท์เวลล์ ยังนับว่าเป็นนักฟุตบอลจากเขตนอร์โฟล์กคนแรกในรอบมากยิ่งกว่า 14 ปีที่ทำคะแนนในเกม พรีเมียร์ลีก ให้กับ นอริช ได้ด้วย ซึ่งบริเวณนอร์โฟล์กก็เป็นถิ่นที่ตั้งของ นอริช เอง

จุดเด่น

แคนท์เวลล์ นับว่าเป็นนักฟุตบอลที่มีความเข้าใจสำหรับในการผ่านบอลที่ดีสำหรับผู้ที่ยังเป็นเพียงแค่ดาวรุ่ง โดยฤดูนี้เขาผ่านบอลตรงเป้าในลีก 81.5 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็มีค่าเฉลี่ยการจ่ายบอลจังหวะสำคัญ 1.1 ครั้งต่อนัดหมายร่วมกัน ซึ่งโน่นก็มีส่วนทำให้เขาทำไปแล้ว 2 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้ นอกนั้น เขายังเลี้ยงบอลก้าวหน้าในระดับหนึ่งด้วย ภายหลังจากมีค่าเฉลี่ยการเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งขันในลีก 1.4 ครั้งต่อนัดหมาย จากจังหวะพากเพียรเลี้ยงบอลทั้งหมดทั้งปวง 2.3 ครั้งต่อเกม แล้วก็เขาก็ยังพริ้วไหวจนกระทั่งสามารถเรียกฟาวล์ได้เฉลี่ยแล้ว 2 ทีตอ่เกม

จุดด้อย

ความนิ่งเป็นปัญหาใหญ่ของ แคนท์เวลล์ ในช่วงฤดูกาลนี้เขาจับบอลหลุดเฉลี่ยแล้ว 2.2 ครั้งต่อเกม แถมยังเก็บบอลเอาไว้กับตัวได้ไม่ดีเยอะแค่ไหนด้วย เนื่องจากโดนคู่ปรปักษ์แย่งบอลไปซนๆเฉลี่ยแล้ว 1.4 ครั้งต่อนัดหมาย ช่วงเวลาเดียวกัน ถึงแม้ว่าเขาจะผ่านบอลเจริญในหลายต้นแบบ แม้กระนั้นการครอสบอลยังนับว่าเป็นข้อด้อย เพราะเหตุว่าเจ้าตัวไม่มีจังหวะครอสบอลจากข้างๆงามๆเลย ในช่วงเวลาที่ด้านลูกในอากาศก็ยังไม่แข็งซักเท่าไหร่ ด้วยเหตุว่าชนะการดวลลูกในอากาศเพียงแค่ 0.6 ครั้งต่อเกม จากจังหวะขึ้นดวลลูกในอากาศทั้งปวงนัดหมายละ 1.9 คราว

ตำแหน่งที่ถนัด

เนื่องจากว่าเป็นปีกซ้ายแต่ว่าครอสบอลไม่ค่อยแม่นเท่าใด มันก็เลยมีบ่อยมากที่เขาจำเป็นต้องหุบเข้ามาเล่นเป็นกองกลางตัวกลาง ซึ่งเขาก็ทำผลงานได้ดิบได้ดีกระทั่งเข้ากันกับ ตีมู ปุ๊กกี้ กองหน้าชาวฟินแลนก์ในระดับหนึ่งด้วย

ถ้าหากให้เทียบกับขุมกำลังชุดเดี๋ยวนี้ของ หงส์แดง แล้วนั้น ตำแหน่งของ แคนท์เวลล์ ก็ค่อนจะคล้ายกับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน แต่ว่าถ้าเกิดเขามาอยู่กับ หงส์แดง จริงๆแคนท์เวลล์ ก็คงจะได้รับโอกาลงเล่นมากพอสมควรอยู่ดี เนื่องจากว่ากันว่าได้โอกาสสูงที่ อดัม ลัลลาน่า จะกล่าวลาถิ่น แอนฟิลด์ ข้างหลังจบฤดูกาลนี้อยู่แล้ว