ข่าวฟุตบอลต่างประเทศพรีเมียร์ลีก อังกฤษฟุตบอล

เจาะประเด็น คล็อปป์ ผู้จัดการทัพ ลิเวอร์พูล รับมือ เชฟฟิลด์

คล็อปป์ เตรียมความพร้อมรับมือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ


นัดนี้ถือเป็นบททดสอบอีกครั้งสำหรับ “หงส์แดง” เนื่องจากพวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างลำบากเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บหลายอย่าง และในแง่ของเกมรับที่ค่อนข้างหละหลวม แต่ก็ยังอุ่นใจพอสมควรเมื่อสามารถเก็บคลีนชีตได้สำเร็จในเกมเยือนอาแจ็กซ์อัมสเตอร์ดัม ในส่วนของกองหลัง “หงส์แดง” ยังมีโอกาสใช้งานโจเอลมาติปจับคู่กับโจโกเมซ

แต่หากดาวเตะชาวแคเมอรูนของเขาสภาพร่างกายยังไม่ฟิต ฟาบินโญ่มีสิทธิ์รับบทเซ็นเตอร์แบ็ค ซึ่งเขาเพิ่งทำผลงานได้ดีในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อกลางสัปดาห์นี้ในขณะเดียวกันในแดนกลางมีความเป็นไปได้สูงที่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า จะกลับมาฟิตเต็มที่เพื่อทำงานร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ในกรณีของ ฟาบินโญ่ บินโญ่ต้องเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค ในขณะที่แนวรุกแน่นอนว่าคล็อปป์หวังว่าจะใช้ซาดิโอมาเน่สามคน, โมฮาเหม็ดซาลาห์และโรแบร์โต้เฟอร์มิโน่อย่างไรก็ตามในกรณีของมาเน่ที่บาดเจ็บที่ขาต้องหวังเรื่องสภาพความฟิต

หงส์แดง
ภาพจาก www.siamsport.co.th

แต่ถ้านักเตะไม่เก่งจริงคล็อปป์ก็มีแผนสำรองคือส่งดีโอโกโชตะทำหน้าที่รุกซ้าย ซึ่งเจ้าตัวมีศักยภาพไม่น้อยไปกว่าสตาร์ชาวเซเนกัลผลงานในการทำประตูไม่ใช่ปัญหาสำหรับลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ เพราะทีมที่มีศักยภาพในการถล่มคู่แข่งเหนือกว่า “หงส์แดง” คือ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตันผู้นำของลีกและ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่มฮ็อทสเปอร์เท่านั้นที่มีเกมรุกมากกว่าพวกเขา

อย่างไรก็ตามปัญหาของทีมอยู่ที่เกมรับ เพราะไม่มีทีมใดในท็อปซิกซ์เสียประตูเกิน 13 ประตูจาก 5 เกมในลีกและงานนี้ “หงส์แดง” อาจต้องกลัวกับการเก็บคลีนชีตในพรีเมียร์ลีก เนื่องจากไม่มีอลิซซงเบ็คเกอร์ผู้รักษาประตูของทีมและเฟอร์จิลฟานไดค์เซ็นเตอร์แบ็กจอมแกร่งแน่นอนว่าสองผู้เล่นคนสำคัญของทีมยังคงพลาดท่าในเกมวันเสาร์ แต่ก็ยังพอจะอุ่นใจได้บ้างที่นี่คล็อปป์สามารถแก้ไขปัญหาการป้องกันได้ชั่วคราว ทีมได้แสดงให้เห็นในการแข่งขัน 1-0 กับอาแจ็กซ์อัมสเตอร์ดัมในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกกลางสัปดาห์

อย่างไรก็ตามลิเวอร์พูลยังคงได้เปรียบในการรับมือเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดเนื่องจาก “ดาบคู่” อยู่ในช่วงเกมรุกเนื่องจากพวกเขายิงได้เพียงสองประตูจากห้าเกมลีกในฤดูกาลนี้ ที่สำคัญทีมของโค้ชคริสวิลเดอร์มักจะเสมอกันเป็นปีที่แพ้เมื่อต้องเจอกับ “หงส์แดง”สถิติแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดยิงได้เพียงประตูเดียวในสี่เกมหลังสุดกับลิเวอร์พูลดังนั้นสโมสรระดับแชมป์พรีเมียร์ลีก 19 สมัยจึงมีโอกาสที่ดีที่จะชนะ เนื่องจากทีมเยือนไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนฤดูกาลที่แล้ว

แม้ว่าผลงานของโมฮาเหม็ดซาลาห์ในช่วงต้นฤดูกาลนี้อาจจะไม่หวือหวามากนัก แต่เขาก็ยังทำประตูให้ทีมได้อย่างต่อเนื่อง ผู้เล่นซัดไป 6 ประตูจาก 5 เกมในลีกและสร้างชื่อให้กับตัวเองในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วยการยิง 100 ประตูในเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้แมตช์ในวันนั้น เสาร์ที่ผ่านมาดาวเตะชาวอียิปต์ซัดไป100ประตูในเกมเพียง159เกมให้กับ”เดอะเร้ดส์”ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่เร็วที่สุดเป็นอันดับสามที่เคยยิงประตูได้ในสีเสื้อลิเวอร์พูลหลังจากเพียงแค่โรเจอร์ฮันท์(144นัด)และแจ็คพาร์กินสัน(153นัด)

โมฮาเหม็ด
ภาพจาก www.siamsport.co.th

สำหรับประตูของซาลาห์แบ่งเป็น 79 ประตูในพรีเมียร์ลีก, 20 ประตูในเวทียุโรปและอีก 1 ประตูในเกมเอฟเอคัพนั้นชัดเจนว่าจำนวนประตูในเกมลีกที่ “บังหมอ” ทำได้จะสร้างผลกระทบ กลัวว่าเกมของเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดอย่างแน่นอนนอกจากนี้นักเตะวัย 28 ปีมักส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายเมื่อทั้งสองทีมมีคิว ด้วยการซัดประตูให้ลิเวอร์พูลในเกมที่พบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว “หงส์แดง” มีสถิติโหดในรังแอนฟิลด์โดยพวกเขาไม่แพ้ใครมา 61 เกมในลีก ดังนั้นนี่คือมนต์วิเศษที่ทีมเยือนรู้สึกหวั่นใจที่สุด

ต้องบอกว่านี่คือจุดเริ่มต้นของฤดูกาลที่ลิเวอร์พูลต้องดิ้นรนทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาต้องขาดพลังของผู้เล่นเนื่องจากอาการบาดเจ็บในเกมเสมอกับเอฟเวอร์ตัน 2-2 และแพ้แอสตันวิลล่า 2-7แน่นอนว่าความมั่นใจในตอนนี้ทัพ “หงส์แดง” อาจจะแย่ลงเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้จึงเห็นได้ชัดว่าผลงานในช่วงต้นฤดูกาลของพวกเขาไม่หวือหวาเหมือนฤดูกาลที่แล้ว และอาจส่งผลกระทบต่อผลงานของทีมในเกมแรกกับเชฟฟิลด์ยูไนเต็ด

ย้อนกลับไปในฤดูกาลที่ผ่านมาลิเวอร์พูลต้องเจองานหนักเมื่อต้องดวลกับ “เดอะเบลด” ทั้งเกมเหย้าและเกมเยือน แม้ว่าพวกเขาจะเอาชนะได้ แต่ก็ต้องออกแรงเพื่อให้ได้ 3 แต้มดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเกมวันเสาร์นี้ทีมของคล็อปป์ต้องใช้ความอดทนอย่างสูงในการต่อสู้กับแขกรับเชิญ

ลองนึกถึงเกมที่ บรามอลล์ เลน เมื่อปีที่แล้วลิเวอร์พูลต้องเจอกับเกมรับที่แข็งแกร่งกับสหรัฐอเมริกาและเกือบเสียประตูหลายลูก และก่อนที่จอร์จินโญ่ไวจ์นัลดุมจะต้องรอถึง 20 นาทีสุดท้ายดังนั้นจึงเป็นไปได้มากที่ทีมเยือนจะเน้นการป้องกันที่แน่นหนาในพื้นที่สุดท้าย เจ้าบ้านต้องใช้ความอดทนในการบุกเข้าไปทำประตู เพราะถ้าคุณเล่นกับพื้นที่ก็อาจถูกตอบโต้ได้เช่นกัน

แน่นอนว่าการขาดฟานไดจ์คในนัดนี้ (และเกมอื่น ๆ อีกมากมายในอนาคต) เป็นการทำการบ้านครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับคล็อปป์ที่จะต้องป้องกันตัว เนื่องจากเขามีผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คและมีประสบการณ์มากมายเหลือเพียงโจโกเมซและโจเอลมาติป

SA Game
ภาพจาก www.siamsport.co.th

เมื่อมาติปโดนอาการป่วยทำให้คล็อปป์ต้องหาทางเลือกใหม่โดยจับฟาบินโญ่เป็นกองหลังชั่วคราว ซึ่งเขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจเฉพาะในเกมล่าสุดที่เฉือนเอาชนะอาแจ็กซ์อัมสเตอร์ดัมในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกสุดสัปดาห์นี้สำหรับคล็อปป์และใช้กองกลางชาวบราซิเลียนยืนเคียงข้างโกเมซคือคำตอบที่ถูกต้อง เพราะถ้าคุณตัดสินใจใช้แนวรับของดาวรุ่งอย่างซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก, รีส วิลเลียมส์ และ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ คุณอาจจะยังไม่มีประสบการณ์ซึ่งหากเล่นผิดพลาดก็มีสิทธิ์ที่จะส่งผลเสียต่อความมั่นใจของคุณได้ ของผู้เล่น

อย่างไรก็ตามคล็อปป์อาจยังมีโอกาสใช้งานมาติปเพราะแม้ว่าผู้เล่นจะประสบปัญหาบาดเจ็บและพลาดทีมในเกมเฉือนอาแจ็กซ์ก็ตามรายงานระบุว่าเขามีปัญหาที่กล้ามเนื้อ น้อยและยังมีโอกาสลงสนามในเกมกับเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดหากเป็นเช่นนั้นอย่างน้อยคล็อปป์ก็จะอุ่นใจได้บ้างเนื่องจากศักยภาพของมาติปกับโกเมซยังค่อนข้างน่าเชื่อถือและจะสามารถใช้งานฟาบินโญ่ในที่ที่เขาเคยเป็นได้ ซึ่งทำให้นักเตะสามารถใช้ศักยภาพที่แท้จริงได้อย่างเต็มที่และช่วยขับเคลื่อนเกมรุกของทีมได้ดีขึ้น

หากโมซาลาห์คือหัวใจของซาดิโอมาเน่คือเลือดหล่อเลี้ยงหัวใจ เพราะเขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมมาตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต้องทำประตูต้องบอกว่าฝ่ายซ้ายชาวเซเนกัลพัฒนาขึ้นและทำประตูให้ “หงส์แดง” ตัวจริงได้

คล็อปป์
ภาพจาก www.siamsport.co.th

แม้ว่ามาเน่จะยิงได้เพียง 4 ประตูจาก 5 เกมในลีกฤดูกาลนี้ แต่เขาก็ทำประตูสำคัญให้กับทีมได้เสมอ รวมถึงการมีส่วนร่วมในการสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมในการทำประตูเนื่องจากในนัดที่อาแจ็กซ์เฉือนประตูได้มากที่สุดมาจากความสามารถของเขา แม้ท้ายที่สุดเขาจะยิงประตูตัวเองโดยผู้เล่นเจ้าบ้าน แต่จะต้องให้เครดิตกับความสามารถเฉพาะของผู้เล่น

ดังนั้นเมื่อสาวก “เดอะค็อป” เห็นมาเน่ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 60 กับอาแจ็กซ์ด้วยสภาพติดน้ำแข็งที่ขาขวา ทำให้หลายคนหวั่นไหวว่าสตาร์ชาวเซเนกัลอาจไม่ฟิตทันเวลาพบเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดอย่างไรก็ตามคล็อปป์ยืนยันว่าสภาพร่างกายไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ซึ่งทำให้แฟนบอล “หงส์แดง” โล่งอกได้ในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตามนี่เป็นคำเตือนว่าสภาพร่างกายของมาเน่สู้มานาน และอาจจะยืนระยะได้ไม่นานในการเริ่มเล่นตัวจริงดังนั้นแผนสำรองที่คล็อปป์จะนำมาใช้คือการนำดีโอโกโชตะลงสนามเนื่องจากศักยภาพของผู้เล่นสามารถทดแทนมาเน่ได้ในระดับหนึ่ง

กุนซือ
ภาพจาก www.siamsport.co.th

ดังนั้นหากกุนซือชาวด๊อยท์ช เลือกที่จะพัก มาเน่เพื่อให้ร่างกายกลับมามีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ เขาอาจจะใส่ชื่อโชตะลงสนามเป็นจุดเริ่มต้นในเกมนี้ แต่หากมาเน่ได้รับเลือกให้เป็น 11 คนแรกก็เป็นไปได้เช่นกันว่าในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกมคล็อปป์ได้ปลดนักเตะออกไปทำให้แข้งชาวโปรตุเกสได้ลงไปสร้างความแตกต่างในแนวรุก

รวมข่าวล่าสุด ที่คุณสนใจ เว็บไซต์ DooDiDo.com รวมข่าวร้อนประเด็นดัง เว็บนี้ วิเคราะห์บอลระดับ เซียน ติดตามความเคลื่อนไหวทีมชาติและและต่างประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง DooDiDo อัพเดทข่าวสาร สดใหม่ทุกวัน ข่าวรวดเร็ว ข่าวฟุตบอลมาแรง อัพเดททุกการแข่งขันทุกนัด เราคือข่าวสารกีฬาดัง ที่ใหญ่ที่สุด

แหล่งที่มา : SIAMSPORT